การเคลื่อนไหวข้อไหล่เป็นสิ่งที่เราทำกว่า 4,000 ครั้งต่อวัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน แต่เมื่อเกิดอาการปวดไหล่หรือไหล่ติด กิจวัตรง่ายๆ เช่น การแปรงฟัน สวมเสื้อ หรือหวีผม กลับกลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย จากสถิติพบว่าประชากรไทยกว่า 20% เคยประสบปัญหาอาการปวดไหล่หรือไหล่ติด โดยพบมากในช่วงอายุ 40-65 ปี
สาเหตุและกลไกการเกิดอาการไหล่ติด
อาการไหล่ติดไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่พัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ เป็นเวลาหลายเดือน โดยสาเหตุหลักมาจากการอักเสบของเยื่อหุ้มข้อไหล่ (Capsulitis) จนเกิดพังผืดและการหดรั้งของเนื้อเยื่อ การศึกษาทางการแพทย์พบว่าปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญได้แก่:
- การทำงานในท่าซ้ำๆ เป็นเวลานาน เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ การขับรถ หรือการทำงานที่ต้องยกแขนเหนือศีรษะบ่อยๆ ซึ่งพบว่าเพิ่มความเสี่ยงถึง 3 เท่า
- ภาวะเบาหวานและไทรอยด์ ผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปถึง 5 เท่าในการเกิดอาการไหล่ติด
- การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่ข้อไหล่ รวมถึงการผ่าตัดบริเวณหน้าอกหรือเต้านม ซึ่งทำให้ต้องจำกัดการเคลื่อนไหวของแขนเป็นเวลานาน
การวินิจฉัยและประเมินความรุนแรง
การวินิจฉัยที่แม่นยำเป็นกุญแจสำคัญสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยแบ่งระยะของอาการออกเป็น 3 ระยะหลัก:
ระยะที่ 1: ระยะอักเสบ (2-9 เดือน)
ในระยะนี้ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดรุนแรง โดยเฉพาะเวลากลางคืนและเมื่อนอนทับด้านที่มีอาการ อาการปวดอาจรบกวนการนอนและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การรักษาในระยะนี้เน้นการควบคุมการอักเสบและบรรเทาอาการปวดเป็นหลัก
ระยะที่ 2: ระยะข้อติดแข็ง (4-12 เดือน)
อาการปวดจะลดลง แต่การเคลื่อนไหวของข้อไหล่จะถูกจำกัดมากขึ้น การตรวจร่างกายจะพบว่าการเคลื่อนไหวข้อไหล่ทั้งแบบผู้ป่วยขยับเองและแพทย์ช่วยขยับมีข้อจำกัด (Global Limitation of Movement)
ระยะที่ 3: ระยะฟื้นฟู (6-24 เดือน)
อาการปวดและการติดแข็งของข้อไหล่จะค่อยๆ ดีขึ้น ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวข้อไหล่ได้มากขึ้น แต่ยังต้องการการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
แนวทางการรักษาด้วยกายภาพบำบัดที่มีประสิทธิภาพ
การรักษาด้วยกายภาพบำบัดในปัจจุบันใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยร่วมกับการบำบัดด้วยมือและการออกกำลังกายเฉพาะส่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูการทำงานของข้อไหล่ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
การรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด
เทคโนโลยีการรักษาสมัยใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดระยะเวลาในการฟื้นฟู ประกอบด้วย:
Focus Shockwave Therapy
นวัตกรรมการรักษาด้วยคลื่นกระแทกความเข้มข้นสูง ที่ช่วยสลายพังผืดและกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ผลการศึกษาพบว่าสามารถลดระยะเวลาการฟื้นตัวได้ถึง 50%
Ultrasound Therapy
การรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดการอักเสบ และเพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการติดแข็งของข้อไหล่
Peripheral Magnetic Stimulation (PMS)
เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ช่วยลดอาการปวด กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ และป้องกันการฝ่อลีบ โดยไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด

โปรแกรมการออกกำลังกายเฉพาะสำหรับข้อไหล่
การออกกำลังกายที่ถูกต้องเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟู โดยแบ่งตามระยะของอาการ:
ระยะที่ 1: การยืดกล้ามเนื้อเบาๆ
เน้นการยืดกล้ามเนื้อแบบ Passive Stretching โดยนักกายภาพบำบัด เพื่อรักษามุมการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ไว้
ระยะที่ 2: การเพิ่มมุมการเคลื่อนไหว
ใช้เทคนิค Joint Mobilization ร่วมกับการออกกำลังกายแบบ Active Assisted Exercise เพื่อค่อยๆ เพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหว
ระยะที่ 3: การเสริมสร้างความแข็งแรง
เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อไหล่ด้วย Resistance Training และการออกกำลังกายเฉพาะส่วน
การป้องกันและดูแลต่อเนื่อง
การป้องกันการกลับเป็นซ้ำมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการรักษา ควรปฏิบัติดังนี้:
- การปรับท่าทางการทำงานให้เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
- การออกกำลังกายเพื่อรักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบไหล่อย่างสม่ำเสมอ
- การหลีกเลี่ยงการใช้งานข้อไหล่ซ้ำๆ ในท่าเดียวเป็นเวลานาน
- การพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q: อาการไหล่ติดต้องผ่าตัดหรือไม่?
A: ในกรณีส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด การรักษาด้วยกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องสามารถฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ได้เป็นปกติ
Q: ต้องรักษานานแค่ไหนถึงจะหาย?
A: ระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและความต่อเนื่องในการรักษา โดยทั่วไปใช้เวลา 6-24 เดือน แต่ผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นภายใน 2-3 เดือนแรกของการรักษา
Q: ควรประคบร้อนหรือเย็น?
A: ในระยะแรกที่มีการอักเสบ (1-3 วัน) ควรประคบเย็น หลังจากนั้นสามารถประคบร้อนเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดและลดอาการปวดเมื่อยได้
สรุป
อาการปวดไหล่และไหล่ติดเป็นปัญหาที่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการดูแลที่ถูกต้องและทันท่วงที การทำกายภาพบำบัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง จะช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ